สำหรับตลาดการซื้อขายเครื่องจักรในปัจจุบันมีความหลากหลายและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจด้านนี้มีการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวเพื่อรองรับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมอยู่เสมอ เช่น การซื้อขายเครื่องจักรเก่าและใหม่ ประมูลเครื่องจักรมือหนึ่ง ประมูลเครื่องจักรมือสอง การติดตั้งเครื่องจักร การซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักร ขนย้ายเครื่องจักร เป็นต้น

 

 

การเริ่มต้นในกระบวนการซื้อหรือขายเครื่องจักรอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ดังนี้

 

 

1. ก่อนซื้อเครื่องจักรอุตสาหกรรม

 

 

     • กำหนดความต้องการซื้อของเครื่องจักรอุตสาหกรรมว่าต้องการใช้เครื่องจักรประเภทไหน มีฟังก์ชั่นการทำงาน ขนาด และกำลังการผลิตที่เหมาะสมกับธุรกิจของเราหรือไม่

     • ตั้งงบประมาณกำหนดจำนวนเงินที่สามารถจ่ายสำหรับเครื่องจักร รวมถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าขนส่ง ค่าติดตั้ง ค่าซ่อมบำรุง และค่าอะไหล่

     • หาแหล่งซื้อเครื่องจักรที่สามารถเชื่อถือได้ มีมาตรฐานปลอดภัย เช่น โรงงานผลิตเครื่องจักร ร้านรับซื้อเครื่องจักร ร้านประมูลเครื่องจักร เว็บไซต์ขายของออนไลน์ ตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักร หรือตลาดนัดเครื่องจักร เป็นต้น

     • หาข้อมูลเปรียบเทียบราคาเครื่องจักรอุตสาหกรรมจากแหล่งต่างๆ พิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น สภาพเครื่องจักร การรับประกัน บริการหลังการขาย 

 

 

2. ก่อนขายเครื่องจักรอุตสาหกรรม 

 

 

     • หาข้อมูลราคาในตลาดของเครื่องจักรรุ่นที่ต้องการขายเพื่อพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น รุ่น ปี สภาพ การใช้งาน และอุปกรณ์เสริม 

     • เตรียมเอกสารสำคัญ เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบรับประกัน คู่มือการใช้งาน และรูปถ่ายของเครื่องจักรอุตสาหกรรม

     • หาช่องทางในการขายเครื่องจักร เช่น เว็บไซต์ขายของออนไลน์ ตัวแทนจำหน่าย โรงรับซื้อ หรือตลาดนัดเครื่องจักร เป็นต้น

     • เขียนประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลของเครื่องจักรที่ต้องการขายให้ชัดเจน ครบถ้วน และน่าสนใจ ถ่ายรูปเครื่องจักรให้สวยงาม 

 

 

 

 

 

     สำหรับการตรวจสอบสภาพเครื่องจักร ควรดูให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อหรือขายเครื่องจักร เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องจักรอยู่ในสภาพดี ใช้งานได้จริง ประเมินมูลค่าของเครื่องจักรได้อย่างถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาและค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง ซึ่งขั้นตอนในการตรวจสอบสภาพเครื่องจักร ดังนี้

 

 

     1. ตรวจสอบเอกสาร ตรวจสอบใบเสร็จรับเงิน ใบรับประกัน คู่มือการใช้งาน และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

     2. ตรวจสอบสภาพภายนอก มองหาสัญญาณของความเสียหาย รอยแตก รอยขีดข่วน รอยบุ๋ม สนิม หรือการสึกหรอ

     3. ตรวจสอบสภาพภายใน ตรวจสอบชิ้นส่วนภายใน เช่น มอเตอร์ สายไฟ ตลับลูกปืน เฟือง และสายพาน ว่าอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยแตก รอยไหม้ หรือการสึกหรอ

     4. ทดสอบการทำงานของเครื่องจักร ตรวจสอบว่าทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่มีเสียงดังผิดปกติ หรือสัญญาณของปัญหา

     5. ตรวจสอบระบบไฟฟ้า สายไฟ ปลั๊กไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้า ว่าอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยแตก รอยไหม้ หรือการชำรุด

     6. ตรวจสอบระบบความปลอดภัย เช่น สวิตช์ตัดไฟฉุกเฉิน ระบบป้องกัน และอุปกรณ์ความปลอดภัย ว่าอยู่ในสภาพดี ทำงานได้อย่างถูกต้อง

 

 

3. อุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสอบเครื่องจักรอุตสาหกรรม ได้แก่

 

 

    เครื่องพับ  • ไฟฉาย

     • ประแจ

     • ไขควง

     • เทสเตอร์ไฟฟ้า

     • กล้องถ่ายรูป

 

 

4. ขั้นตอนในการทดสอบการทำงานของเครื่องจักร

 

 

     1. เตรียมพื้นที่ทดสอบที่ปลอดภัย กว้างขวาง และมีแสงสว่างเพียงพอ

     2. เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทดสอบ เช่น วัตถุดิบ เครื่องมือ และอุปกรณ์วัด

     3. อ่านคู่มือการใช้งานเครื่องจักร ทำความเข้าใจวิธีการใช้งาน ข้อควรระวัง และขั้นตอนการทดสอบ

     4. ตั้งค่าเครื่องจักรตามต้องการ เลือกโหมดการทำงาน ความเร็ว และแรงดัน

     5. ทดสอบการทำงานของเครื่องจักร สังเกตการทำงาน เสียง และสัญญาณผิดปกติ

     6. บันทึกผลการทดสอบ เช่น เวลา ระยะทาง ความเร็ว และแรงดัน 

 

 

5. เทคนิคการเจรจาต่อรองราคาซื้อขายเครื่องจักร

 

 

     1. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า ราคาตลาด และคู่เจรจา กำหนดราคาที่คุณต้องการ

     2. เสนอราคาที่ต่ำกว่าราคาที่คุณต้องการ เผื่อไว้สำหรับการต่อรอง

     3. ฟังข้อเสนอของคู่เจรจา ถามคำถามเพื่อให้เข้าใจความต้องการ

     4. เสนอทางเลือกอื่น เช่น การผ่อนชำระ การแลกเปลี่ยนสินค้า หรือการแถมของแถม

     5. รักษาบรรยากาศให้ดี พูดจาสุภาพ และแสดงท่าทีเป็นมิตร

 

 

     ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการซื้อหรือขายเครื่องจักร เป็นกระบวนการที่ท้าทายและต้องการการเตรียมความพร้อมอย่างดีเยี่ยมเพื่อให้ดำเนินการได้สะดวกและประสบความสำเร็จ เพื่อเพิ่มโอกาสเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการมองหาเครื่องจักรสภาพดี ประสิทธิภาพสูง เพื่อนำไปใช้ในงานต่าง ๆ ในราคาที่คุ้มค่า 

 

 

 

 

     บริษัท อาเบ แมชชีน จำกัด รับซื้อขายเครื่องจักรอุตสาหกรรม ประมูลงานเครื่องจักรเก่าและใหม่ ติดตั้งซ่อมเครื่องจักรทุกชนิด เครื่องม้วน เครื่องมิลสิ่ง เครื่องกลึง เครื่องพับ เครื่องตัด เครื่องปั๊ม Machine CNC และเครื่องจักรมือสองทุกชนิด โดยให้ราคาสูง บริการรวดเร็วและปลอดภัย เรายินดีให้คำปรึกษาและประเมินราคาแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ด้วยทีมงานวิศวกรมืออาชีพ

 

 

----------------------------------------------

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

www.ซื้อ-ขายเครื่องจักร.com

abaemachine.brandexdirectory.com

 

 

 

     สำหรับตลาดการซื้อขายเครื่องจักรในปัจจุบันมีความหลากหลายและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจด้านนี้มีการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวเพื่อรองรับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมอยู่เสมอ เช่น การซื้อขายเครื่องจักรเก่าและใหม่ ประมูลเครื่องจักรมือหนึ่ง ประมูลเครื่องจักรมือสอง การติดตั้งเครื่องจักร การซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักร ขนย้ายเครื่องจักร เป็นต้น

 

 

การเริ่มต้นในกระบวนการซื้อหรือขายเครื่องจักรอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ดังนี้

 

 

1. ก่อนซื้อเครื่องจักรอุตสาหกรรม

 

 

     • กำหนดความต้องการซื้อของเครื่องจักรอุตสาหกรรมว่าต้องการใช้เครื่องจักรประเภทไหน มีฟังก์ชั่นการทำงาน ขนาด และกำลังการผลิตที่เหมาะสมกับธุรกิจของเราหรือไม่

     • ตั้งงบประมาณกำหนดจำนวนเงินที่สามารถจ่ายสำหรับเครื่องจักร รวมถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าขนส่ง ค่าติดตั้ง ค่าซ่อมบำรุง และค่าอะไหล่

     • หาแหล่งซื้อเครื่องจักรที่สามารถเชื่อถือได้ มีมาตรฐานปลอดภัย เช่น โรงงานผลิตเครื่องจักร ร้านรับซื้อเครื่องจักร ร้านประมูลเครื่องจักร เว็บไซต์ขายของออนไลน์ ตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักร หรือตลาดนัดเครื่องจักร เป็นต้น

     • หาข้อมูลเปรียบเทียบราคาเครื่องจักรอุตสาหกรรมจากแหล่งต่างๆ พิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น สภาพเครื่องจักร การรับประกัน บริการหลังการขาย 

 

 

2. ก่อนขายเครื่องจักรอุตสาหกรรม 

 

 

     • หาข้อมูลราคาในตลาดของเครื่องจักรรุ่นที่ต้องการขายเพื่อพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น รุ่น ปี สภาพ การใช้งาน และอุปกรณ์เสริม 

     • เตรียมเอกสารสำคัญ เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบรับประกัน คู่มือการใช้งาน และรูปถ่ายของเครื่องจักรอุตสาหกรรม

     • หาช่องทางในการขายเครื่องจักร เช่น เว็บไซต์ขายของออนไลน์ ตัวแทนจำหน่าย โรงรับซื้อ หรือตลาดนัดเครื่องจักร เป็นต้น

     • เขียนประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลของเครื่องจักรที่ต้องการขายให้ชัดเจน ครบถ้วน และน่าสนใจ ถ่ายรูปเครื่องจักรให้สวยงาม 

 

 

 

 

 

     สำหรับการตรวจสอบสภาพเครื่องจักร ควรดูให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อหรือขายเครื่องจักร เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องจักรอยู่ในสภาพดี ใช้งานได้จริง ประเมินมูลค่าของเครื่องจักรได้อย่างถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาและค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง ซึ่งขั้นตอนในการตรวจสอบสภาพเครื่องจักร ดังนี้

 

 

     1. ตรวจสอบเอกสาร ตรวจสอบใบเสร็จรับเงิน ใบรับประกัน คู่มือการใช้งาน และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

     2. ตรวจสอบสภาพภายนอก มองหาสัญญาณของความเสียหาย รอยแตก รอยขีดข่วน รอยบุ๋ม สนิม หรือการสึกหรอ

     3. ตรวจสอบสภาพภายใน ตรวจสอบชิ้นส่วนภายใน เช่น มอเตอร์ สายไฟ ตลับลูกปืน เฟือง และสายพาน ว่าอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยแตก รอยไหม้ หรือการสึกหรอ

     4. ทดสอบการทำงานของเครื่องจักร ตรวจสอบว่าทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่มีเสียงดังผิดปกติ หรือสัญญาณของปัญหา

     5. ตรวจสอบระบบไฟฟ้า สายไฟ ปลั๊กไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้า ว่าอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยแตก รอยไหม้ หรือการชำรุด

     6. ตรวจสอบระบบความปลอดภัย เช่น สวิตช์ตัดไฟฉุกเฉิน ระบบป้องกัน และอุปกรณ์ความปลอดภัย ว่าอยู่ในสภาพดี ทำงานได้อย่างถูกต้อง

 

 

3. อุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสอบเครื่องจักรอุตสาหกรรม ได้แก่

 

 

     • ไฟฉาย

     • ประแจ

     • ไขควง

     • เทสเตอร์ไฟฟ้า

     • กล้องถ่ายรูป

 

 

4. ขั้นตอนในการทดสอบการทำงานของเครื่องจักร

 

 

     1. เตรียมพื้นที่ทดสอบที่ปลอดภัย กว้างขวาง และมีแสงสว่างเพียงพอ

     2. เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทดสอบ เช่น วัตถุดิบ เครื่องมือ และอุปกรณ์วัด

     3. อ่านคู่มือการใช้งานเครื่องจักร ทำความเข้าใจวิธีการใช้งาน ข้อควรระวัง และขั้นตอนการทดสอบ

     4. ตั้งค่าเครื่องจักรตามต้องการ เลือกโหมดการทำงาน ความเร็ว เครื่องพับ และแรงดัน

     5. ทดสอบการทำงานของเครื่องจักร สังเกตการทำงาน เสียง และสัญญาณผิดปกติ

     6. บันทึกผลการทดสอบ เช่น เวลา ระยะทาง ความเร็ว และแรงดัน 

 

 

5. เทคนิคการเจรจาต่อรองราคาซื้อขายเครื่องจักร

 

 

     1. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า ราคาตลาด และคู่เจรจา กำหนดราคาที่คุณต้องการ

     2. เสนอราคาที่ต่ำกว่าราคาที่คุณต้องการ เผื่อไว้สำหรับการต่อรอง

     3. ฟังข้อเสนอของคู่เจรจา ถามคำถามเพื่อให้เข้าใจความต้องการ

     4. เสนอทางเลือกอื่น เช่น การผ่อนชำระ การแลกเปลี่ยนสินค้า หรือการแถมของแถม

     5. รักษาบรรยากาศให้ดี พูดจาสุภาพ และแสดงท่าทีเป็นมิตร

 

 

     ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการซื้อหรือขายเครื่องจักร เป็นกระบวนการที่ท้าทายและต้องการการเตรียมความพร้อมอย่างดีเยี่ยมเพื่อให้ดำเนินการได้สะดวกและประสบความสำเร็จ เพื่อเพิ่มโอกาสเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการมองหาเครื่องจักรสภาพดี ประสิทธิภาพสูง เพื่อนำไปใช้ในงานต่าง ๆ ในราคาที่คุ้มค่า 

 

 

 

 

     บริษัท อาเบ แมชชีน จำกัด รับซื้อขายเครื่องจักรอุตสาหกรรม ประมูลงานเครื่องจักรเก่าและใหม่ ติดตั้งซ่อมเครื่องจักรทุกชนิด เครื่องม้วน เครื่องมิลสิ่ง เครื่องกลึง เครื่องพับ เครื่องตัด เครื่องปั๊ม Machine CNC และเครื่องจักรมือสองทุกชนิด โดยให้ราคาสูง บริการรวดเร็วและปลอดภัย เรายินดีให้คำปรึกษาและประเมินราคาแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ด้วยทีมงานวิศวกรมืออาชีพ

 

 

----------------------------------------------

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

www.ซื้อ-ขายเครื่องจักร.com

abaemachine.brandexdirectory.com

ระบบไฟฟ้ามีความสำคัญอย่างไรกับโรงงานอุตสาหกรรม

         à¹‚รงงานอุตสาหกรรมจำเป็นต้องใช้กระแสไฟฟ้าจำนวนมากในการขับเคลื่อนเครื่องจักรในโรงงาน ซึ่งสิ่งสำคัญของระบบการจ่ายและควบคุมไฟฟ้าในโรงงาน จำเป็นต้องมีการการออกแบบระบบไฟฟ้าโรงงานให้เป็นไปตามข้อกําหนดของมาตรฐาน โดยเลือกระบบการจ่ายและการควบคุมให้เหมาะสมกับการใช้งาน รวมไปถึงความปลอดภัยในการควบคุมการจ่ายไฟฟ้าในโรงงานเนื่องจากระบบไฟฟาที่ใช้มีหลายระบบ การจ่ายไฟฟ้าที่ดี ควรพิจารณาเลือกใช้อุปกรณ์การจ่ายไฟฟ้าให้เหมาะสม และต้องมีการบำรุงรักษาระบบการจ่ายไฟฟ้าอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอนั้น จะทำให้สามารถใช้งานระบบการจ่ายไฟฟ้าได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย

 

 

 

 

ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงหากต้องการติดตั้งระบบไฟฟ้าโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่

1. ขนาดของโรงงาน 
เป็นปัจจัยแรกที่ต้องคำนึง เพราะมีผลต่อการเลือกระดับแรงดันของกระแสไฟฟ้า การลงทุนซื้ออุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการติดตั้งระบบฟ้า เช่น ตู้สวิทซ์บอร์ด ตู้MDB ตูคอนโทรล สายไฟ เบรกเกอร์ หม้อแปลงไฟฟ้า เป็นต้นโดยขนาดของโรงงานอุตสาหกรรมนั้นจะมีตั้งแต่ขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ซึ่งอัตราค่าไฟฟ้ามาตรฐานที่การไฟฟ้าฯ ใช้ควบคุมการใช้จะแตกต่างกัน ดังนี้
- โรงงานขนาดเล็ก จะต้องเชื่อมต่อกับระบบแรงดันต่ำของการไฟฟ้า
- โรงงานขนาดกลาง สามารถขอเลือกใช้และเชื่อมต่อระบบของการไฟฟ้าที่ระดับแรงดันต่าง ๆ ที่มีอยู่ในระยะห่างที่โรงงานมีความสามารถลงทุนได้ อัตราค่าไฟฟ้าก็จะแตกต่างกันตามระดับแรงดันที่ขอใช้
- โรงงานขนาดใหญ่ สามารถขอเลือกใช้และเชื่อมต่อระบบของการไฟฟ้าที่ระดับแรงดันที่ต้องการได้เช่นกัน แต่เดิมอัตราค่าไฟฟ้าจะคิดตามช่วงเวลาของวัน 

2. กระบวนการผลิตของอุตสาหกรรม 
เนื่องจากอุตสาหกรรมในประเทศไทยนั้นมีหลากหลายประเภท แต่อุตสาหกรรมบางประเภทจะมีกระบวนการผลิตที่ต้องใช้ความต่อเนื่องในการผลิต ส่งผลให้คุณภาพของไฟฟ้ามีผลกระทบต่อการผลิตของโรงงานและจำเป็นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยให้มาก และบางอุตสาหกรรมจะใช้ไฟฟ้าในการผลิตเป็นลักษณะกระชากเป็นช่วง ๆ ทำให้อาจส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าต้นทาง และผู้ใช้ไฟฟ้าในบริเวณใกล้เคียงได้ ดังนั้นกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมเป็นปัจจัยชี้นำในการลงทุน เพื่อคุณภาพของระบบไฟฟ้าของโรงงาน เพราะถ้าหากระบบไฟฟ้าขัดข้องบ่อยจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของธุรกิจได้

3. ประเภทของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงาน 

         à¸­à¸¸à¸›à¸à¸£à¸“์ที่ใช้สำหรับจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังส่วนต่างของโรงงานอุตสาหกรรมจำเป็นต้องสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน เนื่องจากแหล่งจ่ายไฟมีระดับที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นจะขึ้นอยู่กับประเภทของอุปกรณ์ไฟฟ้าและลักษณะการใช้งาน ระบบไฟฟ้าของโรงงาน จะต้องออกแบบให้เป็นต้นกำลังที่เหมาะสมและปลอดภัยเพียงพอกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะต้องใช้ในโรงงาน ซึ่งการวางระบบที่เหมาะสมจะสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้หลากหลาย สนองความต้องการในกระบวนการผลิตของโรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ

4. ทุนรวมถึงความเสี่ยงในการหยุดการผลิต 

      รับติดตั้งตู้สวิทช์บอร์ด    à¸ªà¸³à¸«à¸£à¸±à¸šà¸à¸²à¸£à¸•à¸´à¸”ตั้งระบบไฟฟ้าโรงงานจะต้องมีศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน เพราะโดยปกติแล้วผู้ประกอบการมักจะเลือกช่องการลงทุนที่ใช้งบประมาณต่ำที่สุด แต่ทางเลือกที่กำหนดขึ้นเป็นโจทย์ที่จะต้องอยู่บนพื้นฐานของปัจจัยทั้งสี่ข้อที่กล่าวมาข้างต้นของแต่ละโรงงาน ในการออกแบบระบบไฟฟ้าควรออกแบบให้มีทางเลือกหลาย ๆ ทาง ในการวิเคราะห์ความเหมาะสมทางเศรษฐศาสตร์ และความแม่นยำในการประมาณการของวิศวกรผู้ออกแบบ จะช่วยทำให้ผลการวิเคราะห์ในการตัดสินใจของผู้บริหารของโรงงานแม่นยำขึ้น


ทั้งนี้ประเภทของอุปกรณ์ไฟฟ้าเบื้องต้นที่ต้องใช้งาน อาทิเช่น  à¸­à¸¸à¸›à¸à¸£à¸“์ระบบปรับอากาศ ,ตู้แช่แข็ง ,ห้องเย็น ,มอเตอร์ไฟฟ้า ,หม้อแปลงไฟฟ้า ,ระบบควบคุม ,เครื่องกำเนิดไฟฟ้า  à¸­à¸¸à¸›à¸à¸£à¸“์ electronic และ computer และอีกมากมาย ๆ  à¸‹à¸¶à¹ˆà¸‡à¸à¸²à¸£à¸­à¸­à¸à¹à¸šà¸šà¸£à¸°à¸šà¸šà¹„ฟฟ้าควรคำนึงถึงความเหมาะสมและความปลอดภัยเพียงพอกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะต้องใช้ในโรงงานหากมีการออกแบบระบบไฟฟ้าที่เหมาะสมเราก็จะสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างหลากหลายและยังตอบสนองความต้องการในส่วนของกระบวนการผลิตของโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ติดตั้งระบบไฟฟ้า

 

 

บำรุงรักษาและบริการตู้ควบคุมไฟฟ้า

         à¸—ั้งนี้ประเภทของอุปกรณ์ไฟฟ้าเบื้องต้นที่ต้องใช้งาน อาทิเช่น  à¸­à¸¸à¸›à¸à¸£à¸“์ระบบปรับอากาศ ,ตู้แช่แข็ง ,ห้องเย็น ,มอเตอร์ไฟฟ้า ,หม้อแปลงไฟฟ้า ,ระบบควบคุม ,เครื่องกำเนิดไฟฟ้า  à¸­à¸¸à¸›à¸à¸£à¸“์ electronic และ computer และอีกมากมาย ๆ  à¸‹à¸¶à¹ˆà¸‡à¸à¸²à¸£à¸­à¸­à¸à¹à¸šà¸šà¸£à¸°à¸šà¸šà¹„ฟฟ้าควรคำนึงถึงความเหมาะสมและความปลอดภัยเพียงพอกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะต้องใช้ในโรงงานหากมีการออกแบบระบบไฟฟ้าที่เหมาะสมเราก็จะสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างหลากหลายและยังตอบสนองความต้องการในส่วนของกระบวนการผลิตของโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

         à¸šà¸£à¸´à¸©à¸±à¸— ที.ที.คอนโทรล ซิสเต็มส์ จำกัด à¹€à¸£à¸²à¹ƒà¸«à¹‰à¸šà¸£à¸´à¸à¸²à¸£ à¸•à¸´à¸”ตั้งตู้ MDB ประกอบตู้ MDB ผลิตตู้สวิทซ์บอร์ด ติดตั้งตู้สวิทซ์บอร์ด à¸‹à¹ˆà¸­à¸¡à¸•à¸¹à¹‰à¸„อนโทรล ประกอบตู้คอนโทรล ซ่อมบำรุงตู้สวิทซ์บอร์ด รับเหมาออกแบบตู้สวิทซ์บอร์ด ประกอบตู้สวิทซ์บอร์ด ตู้คอนโทรลไฟฟ้า ติดตั้งตู้คอนโทรลไฟฟ้า ประกอบตู้คอนโทรลไฟฟ้า à¸‹à¹ˆà¸­à¸¡à¸•à¸¹à¹‰à¸ªà¸§à¸´à¸—ซ์บอร์ด ออกแบบตู้คอนโทรล à¸•à¸´à¸”ตั้งตู้คอนโทรล และจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง-แรงต่ำ ตู้สวิทซ์บอร์ด ตู้คอนโทรล à¸•à¸¹à¹‰ MDB ( Main Distribution Board ) ตู้ควบคุมไฟฟ้า 

------------------------------------------------------------------------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง
• à¸•à¸¹à¹‰à¸ªà¸³à¸«à¸£à¸±à¸šà¸„อนโทรลระบบไฟฟ้ามีกี่ประเภท 
• แนะนำวิธีการตรวจเช็คบำรุงรักษาตู้คอนโทรลเพื่อให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน
• บริการออกแบบติดตั้งตู้สวิทซ์บอร์ดและตู้คอนโทรล โดยที.ที.คอนโทรล ซิสเต็มส์ 

 

____________________________________________________

 

สนใจชมข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน Marketplace

 

www.brandexdirectory.com
เว็บไซต์รวมสินค้าอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของประเทศไทย

 

www.pagesthai.com
เว็บไซต์รวมรายชื่อโรงงานผลิต ซับคอนแทรค และบริการ

 

www.Brand.co.th
เว็บรวมสินค้าแบรนด์และผู้ผลิตสินค้าแบรนด์

 

www.eeczone.com
เว็บรวมรายชื่อผู้ประกอบการภาคตะวันออก

ระบบไฟฟ้ามีความสำคัญอย่างไรกับโรงงานอุตสาหกรรม

         à¹‚รงงานอุตสาหกรรมจำเป็นต้องใช้กระแสไฟฟ้าจำนวนมากในการขับเคลื่อนเครื่องจักรในโรงงาน ซึ่งสิ่งสำคัญของระบบการจ่ายและควบคุมไฟฟ้าในโรงงาน จำเป็นต้องมีการการออกแบบระบบไฟฟ้าโรงงานให้เป็นไปตามข้อกําหนดของมาตรฐาน โดยเลือกระบบการจ่ายและการควบคุมให้เหมาะสมกับการใช้งาน รวมไปถึงความปลอดภัยในการควบคุมการจ่ายไฟฟ้าในโรงงานเนื่องจากระบบไฟฟาที่ใช้มีหลายระบบ การจ่ายไฟฟ้าที่ดี ควรพิจารณาเลือกใช้อุปกรณ์การจ่ายไฟฟ้าให้เหมาะสม และต้องมีการบำรุงรักษาระบบการจ่ายไฟฟ้าอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอนั้น จะทำให้สามารถใช้งานระบบการจ่ายไฟฟ้าได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย

 

 

 

 

ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงหากต้องการติดตั้งระบบไฟฟ้าโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่

1. ขนาดของโรงงาน 
เป็นปัจจัยแรกที่ต้องคำนึง เพราะมีผลต่อการเลือกระดับแรงดันของกระแสไฟฟ้า การลงทุนซื้ออุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการติดตั้งระบบฟ้า เช่น ตู้สวิทซ์บอร์ด ตู้MDB ตูคอนโทรล สายไฟ เบรกเกอร์ หม้อแปลงไฟฟ้า เป็นต้นโดยขนาดของโรงงานอุตสาหกรรมนั้นจะมีตั้งแต่ขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ซึ่งอัตราค่าไฟฟ้ามาตรฐานที่การไฟฟ้าฯ ใช้ควบคุมการใช้จะแตกต่างกัน ดังนี้
- โรงงานขนาดเล็ก จะต้องเชื่อมต่อกับระบบแรงดันต่ำของการไฟฟ้า
- โรงงานขนาดกลาง สามารถขอเลือกใช้และเชื่อมต่อระบบของการไฟฟ้าที่ระดับแรงดันต่าง ๆ ที่มีอยู่ในระยะห่างที่โรงงานมีความสามารถลงทุนได้ อัตราค่าไฟฟ้าก็จะแตกต่างกันตามระดับแรงดันที่ขอใช้
- โรงงานขนาดใหญ่ สามารถขอเลือกใช้และเชื่อมต่อระบบของการไฟฟ้าที่ระดับแรงดันที่ต้องการได้เช่นกัน แต่เดิมอัตราค่าไฟฟ้าจะคิดตามช่วงเวลาของวัน 

2. กระบวนการผลิตของอุตสาหกรรม 
เนื่องจากอุตสาหกรรมในประเทศไทยนั้นมีหลากหลายประเภท แต่อุตสาหกรรมบางประเภทจะมีกระบวนการผลิตที่ต้องใช้ความต่อเนื่องในการผลิต ส่งผลให้คุณภาพของไฟฟ้ามีผลกระทบต่อการผลิตของโรงงานและจำเป็นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยให้มาก และบางอุตสาหกรรมจะใช้ไฟฟ้าในการผลิตเป็นลักษณะกระชากเป็นช่วง ๆ ทำให้อาจส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าต้นทาง และผู้ใช้ไฟฟ้าในบริเวณใกล้เคียงได้ ดังนั้นกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมเป็นปัจจัยชี้นำในการลงทุน เพื่อคุณภาพของระบบไฟฟ้าของโรงงาน เพราะถ้าหากระบบไฟฟ้าขัดข้องบ่อยจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของธุรกิจได้

3. ประเภทของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงาน 

         à¸­à¸¸à¸›à¸à¸£à¸“์ที่ใช้สำหรับจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังส่วนต่างของโรงงานอุตสาหกรรมจำเป็นต้องสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน เนื่องจากแหล่งจ่ายไฟมีระดับที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นจะขึ้นอยู่กับประเภทของอุปกรณ์ไฟฟ้าและลักษณะการใช้งาน ระบบไฟฟ้าของโรงงาน จะต้องออกแบบให้เป็นต้นกำลังที่เหมาะสมและปลอดภัยเพียงพอกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะต้องใช้ในโรงงาน ซึ่งการวางระบบที่เหมาะสมจะสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้หลากหลาย สนองความต้องการในกระบวนการผลิตของโรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ

4. ทุนรวมถึงความเสี่ยงในการหยุดการผลิต 

         à¸ªà¸³à¸«à¸£à¸±à¸šà¸à¸²à¸£à¸•à¸´à¸”ตั้งระบบไฟฟ้าโรงงานจะต้องมีศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน เพราะโดยปกติแล้วผู้ประกอบการมักจะเลือกช่องการลงทุนที่ใช้งบประมาณต่ำที่สุด แต่ทางเลือกที่กำหนดขึ้นเป็นโจทย์ที่จะต้องอยู่บนพื้นฐานของปัจจัยทั้งสี่ข้อที่กล่าวมาข้างต้นของแต่ละโรงงาน ในการออกแบบระบบไฟฟ้าควรออกแบบให้มีทางเลือกหลาย ๆ ทาง ในการวิเคราะห์ความเหมาะสมทางเศรษฐศาสตร์ และความแม่นยำในการประมาณการของวิศวกรผู้ออกแบบ จะช่วยทำให้ผลการวิเคราะห์ในการตัดสินใจของผู้บริหารของโรงงานแม่นยำขึ้น


ทั้งนี้ประเภทของอุปกรณ์ไฟฟ้าเบื้องต้นที่ต้องใช้งาน อาทิเช่น  à¸­à¸¸à¸›à¸à¸£à¸“์ระบบปรับอากาศ ,ตู้แช่แข็ง ,ห้องเย็น ,มอเตอร์ไฟฟ้า ,หม้อแปลงไฟฟ้า ,ระบบควบคุม ,เครื่องกำเนิดไฟฟ้า  à¸­à¸¸à¸›à¸à¸£à¸“์ electronic และ computer และอีกมากมาย ๆ  à¸‹à¸¶à¹ˆà¸‡à¸à¸²à¸£à¸­à¸­à¸à¹à¸šà¸šà¸£à¸°à¸šà¸šà¹„ฟฟ้าควรคำนึงถึงความเหมาะสมและความปลอดภัยเพียงพอกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะต้องใช้ในโรงงานหากมีการออกแบบระบบไฟฟ้าที่เหมาะสมเราก็จะสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างหลากหลายและยังตอบสนองความต้องการในส่วนของกระบวนการผลิตของโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ติดตั้งระบบไฟฟ้า

 

 

บำรุงรักษาและบริการตู้ควบคุมไฟฟ้า

         à¸—ั้งนี้ประเภทของอุปกรณ์ไฟฟ้าเบื้องต้นที่ต้องใช้งาน อาทิเช่น  à¸­à¸¸à¸›à¸à¸£à¸“์ระบบปรับอากาศ ,ตู้แช่แข็ง ,ห้องเย็น ,มอเตอร์ไฟฟ้า ,หม้อแปลงไฟฟ้า ,ระบบควบคุม ,เครื่องกำเนิดไฟฟ้า  à¸­à¸¸à¸›à¸à¸£à¸“์ electronic และ computer และอีกมากมาย ๆ  à¸‹à¸¶à¹ˆà¸‡à¸à¸²à¸£à¸­à¸­à¸à¹à¸šà¸šà¸£à¸°à¸šà¸šà¹„ฟฟ้าควรคำนึงถึงความเหมาะสมและความปลอดภัยเพียงพอกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะต้องใช้ในโรงงานหากมีการออกแบบระบบไฟฟ้าที่เหมาะสมเราก็จะสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างหลากหลายและยังตอบสนองความต้องการในส่วนของกระบวนการผลิตของโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

        ผลิตตู้ MDB  à¸šà¸£à¸´à¸©à¸±à¸— ที.ที.คอนโทรล ซิสเต็มส์ จำกัด à¹€à¸£à¸²à¹ƒà¸«à¹‰à¸šà¸£à¸´à¸à¸²à¸£ à¸•à¸´à¸”ตั้งตู้ MDB ประกอบตู้ MDB ผลิตตู้สวิทซ์บอร์ด ติดตั้งตู้สวิทซ์บอร์ด à¸‹à¹ˆà¸­à¸¡à¸•à¸¹à¹‰à¸„อนโทรล ประกอบตู้คอนโทรล ซ่อมบำรุงตู้สวิทซ์บอร์ด รับเหมาออกแบบตู้สวิทซ์บอร์ด ประกอบตู้สวิทซ์บอร์ด ตู้คอนโทรลไฟฟ้า ติดตั้งตู้คอนโทรลไฟฟ้า ประกอบตู้คอนโทรลไฟฟ้า à¸‹à¹ˆà¸­à¸¡à¸•à¸¹à¹‰à¸ªà¸§à¸´à¸—ซ์บอร์ด ออกแบบตู้คอนโทรล à¸•à¸´à¸”ตั้งตู้คอนโทรล และจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง-แรงต่ำ ตู้สวิทซ์บอร์ด ตู้คอนโทรล à¸•à¸¹à¹‰ MDB ( Main Distribution Board ) ตู้ควบคุมไฟฟ้า 

------------------------------------------------------------------------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง
• à¸•à¸¹à¹‰à¸ªà¸³à¸«à¸£à¸±à¸šà¸„อนโทรลระบบไฟฟ้ามีกี่ประเภท 
• แนะนำวิธีการตรวจเช็คบำรุงรักษาตู้คอนโทรลเพื่อให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน
• บริการออกแบบติดตั้งตู้สวิทซ์บอร์ดและตู้คอนโทรล โดยที.ที.คอนโทรล ซิสเต็มส์ 

 

____________________________________________________

 

สนใจชมข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน Marketplace

 

www.brandexdirectory.com
เว็บไซต์รวมสินค้าอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของประเทศไทย

 

www.pagesthai.com
เว็บไซต์รวมรายชื่อโรงงานผลิต ซับคอนแทรค และบริการ

 

www.Brand.co.th
เว็บรวมสินค้าแบรนด์และผู้ผลิตสินค้าแบรนด์

 

www.eeczone.com
เว็บรวมรายชื่อผู้ประกอบการภาคตะวันออก

เครื่องบรรจุสูญญากาศ (Vacuum Packer) หรือเรียกได้อีกชื่อว่า เครื่องซีลสูญญากาศ เป็นเครื่องแพ็คบรรจุแบบสูญญากาศขนาดใหญ่ ที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมอาหาร ที่สามารถบรรจุอาหารได้ทั้งแห้งและเปียก มีฟังก์ชันทำงานที่สะดวก เเละง่ายต่อการควบคุม โดยการทำงานของเครื่อง คือ à¸Šà¹ˆà¸§à¸¢à¸”ูดอากาศออกจากบรรจุภัณฑ์แล้วซีลปิดปากถุงให้สนิทด้วยความร้อนเพื่อเป็นการรักษาคุณภาพและช่วยยืดอายุของอาหารให้อยู่ได้นานขึ้น พร้อมจำหน่ายออกสู่ผู้บริโภคต่อไป

 

 

 

เครื่องบรรจุสูญญากาศ (Eulsung - Vacuum Packer)

 

 

เครื่องบรรจุสูญญากาศ à¸•à¸±à¸§à¸Šà¹ˆà¸§à¸¢à¸—ี่ดีในการยืดอายุอาหาร

การบรรจุแบบสุญญากาศเป็นการช่วยยืดอายุของอาหาร โดยการดูดอากาศออกจากถุงก่อนทำการปิดผนึกซีลปากบรรจุภัณฑ์ เหมาะสำหรับอาหารที่มีเเนวโน้มต้องจัดเก็บเป็นเวลานานอย่างอาหารเเห้ง à¹€à¸Šà¹ˆà¸™ ธัญพืช ข้าวสาร ถั่ว เนื้อหมัก กุนเชียง ไส้กรอก เป็นต้น à¸‹à¸¶à¹ˆà¸‡à¸à¸²à¸£à¹ƒà¸Šà¹‰à¹€à¸„รื่องบรรจุสูญญากาศ à¸ˆà¸°à¸Šà¹ˆà¸§à¸¢à¸à¸³à¸ˆà¸±à¸”ออกซิเจนออกจากบรรจุภัณฑ์ ช่วยลดการเติบโตของแบคทีเรียหรือเชื้อรา ทำให้อาหารมีอายุยาวนานขึ้น

สำหรับถุงพลาสติกที่ใช้ในการแพ็คจะเป็นถุงพลาสติกแบบพิเศษ เรียกว่า ถุงแวคคั่ม เป็นถุงที่สามารถป้องกันไม่ให้อากาศภายนอกซึมผ่านเข้าไปในถุง มีฟังก์ชันทำงานที่สะดวก งานต่อการควบคุมด้วยหน้าจอ PLC เครื่องบรรจุสูญญากาศ ซึ่งเครื่องบรรจุสูญญากาศ à¹„ม่เพียงเเต่บรรจุอาหารได้เท่านั้น เเต่ยังสามารถบรรสินค้าเพื่อป้องกันการเกิดสนิมอีกด้วย อาทิ แผงวงจรอิเล็คทรอนิคส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น

 

บริษัท วาซเซอร์เท็ค จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายแพ็คสูญญากาศ Eulsung - Vacuum Packer เป็นเครื่องแพ็คสูญญากาสขนาดใหญ่ ซึ่งถุงใช้ในอุตสาหกรรมอาหารที่มีการบรรจุ à¸Šà¹ˆà¸§à¸¢à¸”ูดอากาศออกจากบรรจุภัณฑ์แล้วซีลปิดปากถุงให้สนิทด้วยความร้อนเพื่อเป็นการรักษาคุณภาพและช่วยยืดอายุของอาหารให้อยู่ได้นานขึ้น

 

------------------------------------------------------

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

- à¸«à¸™à¹‰à¸²à¸—ี่ของปะเก็นเพลทฮีท

 

- 3 กลุ่มลักษณะการใช้งานของวาล์วอุตสาหกรรม ในระบบงานท่อประปา

 

- à¸£à¸¹à¸›à¹à¸šà¸šà¸‚องปั๊มและการเลือกใช้งาน